โบท็อกซ์คืออะไร? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
โบท็อกซ์ (Botox) คือสารโบทูลินัม ท็อกซิน ไทป์เอ (Botulinum Toxin Type A) ซึ่งเป็นโปรตีนที่สกัดได้จากแบคทีเรียครอสตรเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) เมื่อฉีดเข้าผิวในปริมาณที่พอเหมาะจะส่งผลให้มัดกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีดเป็นอัมพาต ช่วยยับยั้งไม่ให้กล้ามเนื้อหดหรือเกร็งตัวเป็นเวลาชั่วคราว เมื่อกล้ามเนื้อเริ่มคลายตัวและทำงานได้น้อยลง ปัญหาริ้วรอยที่มีอยู่ก็จะดูดีขึ้น ช่วยลดโอกาสการเกิดริ้วรอยใหม่ๆ หลังฉีดโบท็อกซ์ผิวก็จะกระชับ และอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น
นอกจากจะช่วยลดริ้วรอย ปรับผิวให้กระชับแล้ว การฉีดโบท็อกซ์ยังช่วยจัดการปัญหาอื่นๆได้ทั้งช่วยลิฟต์กรอบหน้า ให้หน้าเรียวกระชับ ลดขนาดกล้ามเนื้อให้เล็กลง ลดกราม ลดกล้ามเนื้อน่อง ช่วยลดเหงื่อและกลิ่นตัวและยังสามารถฉีดโบท็อกซ์เพื่อรักษาอาการไมเกรนหรือปวดหัวเรื้อรังได้ด้วย
โบท็อกซ์มีกี่ยี่ห้อ? ยี่ห้อไหนดี?
1. โบท็อกซ์ยี่ห้อ Allergen เป็นโบท็อกซ์จากประเทศสหรัฐอเมริกา มีจุดเด่นที่มีการกระจายตัวแคบ โดยมีโมเลกุลขนาดเล็ก มีความเข้มข้นสูง มีคุณภาพดี มีความบริสุทธิ์สูง อยู่ได้นาน 6-8 เดือน
2. โบท็อกซ์ยี่ห้อ Dysport เป็นโบท็อกซ์จากประเทศอังกฤษ กระจายตัวได้ดี ลดต้นแขนและลดน่อง ลดเหงื่อบริเวณรักแร้และฝ่ามือ สามารถนำมาใช้ปรับรูปหน้า
3. โบท็อกซ์ยี่ห้อ Xeomin เป็นโบท็อกซ์จากประเทศเยอรมัน เป็นสารโบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์ 100% ขนาดโมเลกุลเล็กและสามารถกระจายตัวได้ดี ช่วยแก้ปัญหาการดื้อโบท็อก นิยมใช้ลดเลือนริ้วรอย กระชับ ปรับรูปหน้า
4. โบท็อกซ์ยี่ห้อ Aestox, Nabota, Hugel, Clodew เป็นโบท็อกซ์จากประเทศเกาหลี ออกฤทธิ์ไว ให้ประสิทธิภาพการลดริ้วรอย เช่น ตีนกา รอยย่นหน้าผาก รอยย่นหัวคิ้ว เป็นสารโบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์ถึง 98.7% สามารถลดอัตราการดื้อยาให้สามารถกลับมาฉีดซ้ำใหม่ได้
5. โบท็อกซ์ยี่ห้อ BTXA เป็นโบท็อกซ์จากประเทศฮ่องกง เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวในบริเวณที่ต้องการ สารโบทูลินัมจะเข้าไปจับกับปลายเส้นประสาทและยับยั้งการหลั่งของสาร Acetylcholine ทำให้ริ้วรอยที่เคยมีดูจางลง ลดขนาดของกล้ามเนื้อ ทั้งใช้ฉีดลดกล้ามเนื้อกราม เพื่อให้กรอบหน้าให้ดูเรียวสวย ฉีดลดน่อง ลดกล้ามแขน และสามารถฉีดเพื่อลดเหงื่อ ได้ทั้งบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้าและรักแร้
ตำแหน่งการฉีดโบท็อกซ์ (Botox)
- ตำแหน่งบริเวณที่นิยมฉีดโบท็อกซ์มักเป็นส่วนที่เกิดริ้วรอยได้ง่าย รวมไปถึงการลดกราม ปรับหน้าเรียว ส่วนใหญ่ก็นิยมฉีดโบท็อกซ์ เพราะเห็นผลเร็ว ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล
- โบท็อกซ์ลดกราม ฉีด Botox บริเวณกรามและกรอบหน้าจะทำให้ไปลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณนี้ ทำให้หน้าเรียวขึ้นดูเด็กและมีเหนียงน้อยลง
- โบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า ฉีด Botox บริเวณกรามและกรอบหน้าจะทำให้หน้าเรียวขึ้นดูเด็กและมีเหนียงน้อยลง
- โบท็อกซ์หางตา เป็นที่มาของตีนกา การฉีด Botox บริเวณหางตาจะทำให้เห็นความแตกต่างชัดเจนว่าหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- โบท็อกซ์หน้าผาก หน้าผากและระหว่างหัวคิ้วจึงมักเกิดปัญหาริ้วรอยร่องลึก ซึ่งทำให้ดูหน้าไม่เรียบ ดูแก่กว่าวัยที่สำคัญบางคนเมื่อมีริ้วรอยร่องลึกบริเวณนี้ทำให้ดูเป็นคนขี้กังวลอยู่ตลอดเวลาหน้าตาไม่สดใส
- โบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว หน้าผากและระหว่างหัวคิ้วจึงมักเกิดปัญหาริ้วรอยร่องลึก ซึ่งทำให้ดูหน้าไม่เรียบ ดูแก่กว่าวัยที่สำคัญบางคนเมื่อมีริ้วรอยร่องลึกบริเวณนี้ทำให้ดูเป็นคนขี้กังวลอยู่ตลอดเวลาหน้าตาไม่สดใส
- โบท็อกซ์ลดโหนกแก้ม เข้าไปลดขนาดกล้ามเนื้อทำให้กล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลง โหนกแก้ม จึงมีขนาดเล็กลงได้
- โบท็อกซ์ปีกจมูก ฉีดเข้าไปบริเวณเนื้อจมูก ให้กล้ามเนื้อเล็กและหดตัวลง
- โบท็อกซ์รักแร้ ช่วยลดการทำงานของต่อมเหงื่อ ทำให้เหงื่อออกน้อยลง ระงับกลิ่นกาย
- โบท็อกซ์น่อง ทำให้กล้ามเนื้อน่องที่เคยใหญ่กลับมีขนาดที่เล็กลงได้ ซึ่งหลักการก็จะเหมือนกับการลดขนาดของกล้ามเนื้อกรามให้หน้าแลดูเรียวขึ้น
- โบท็อกซ์แขน การฉีดโบท็อกลดต้นแขน จะช่วยให้ขนาดตัวดูเหมือนเล็กลงได้ด้วย เพราะช่วยลดความกว้างของบ่าลง
ข้อปฏิบัติตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์
- ควรหยุดการใช้ยาแก้ปวด ยาแอสไพริน ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDS ได้แก่ Ibuprofen, Naproxen อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อป้องการอาการช้ำต่างๆ
- งดวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม ใบแปะก๊วย เป็นเวลา 2 สัปดาห์
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด
- ควรแจ้งให้แพทย์ผู้ฉีดทราบถึงปัญหาที่กังวลและสิ่งที่ต้องการในแต่ละส่วนอย่างชัดเจนก่อนฉีด เนื่องจากความต้องการที่ต่างกันไปตามแต่ละบุคคล เช่น บางท่านชอบให้ตึงมากๆ แต่บางท่านอาจชอบให้ดูเป็นธรรมชาติ แตกต่างกันไป
หลังฉีดโบท็อกซ์ดูแลตัวเองอย่างไร?
- ไม่นอนราบในช่วง 3-4 ชั่วโมงแรกหลังจากฉีดโบท็อกซ์ เพราะโบท็อกซ์อาจไหลไปในบริเวณที่ไม่ต้องการ
- ให้นอนหงายหนุนหมอนสูง ในคืนแรกของการรักษา
- ไม่ประคบร้อน และระวังอย่าให้ลมร้อนจากไดร์เป่าผมไปเป่าบริเวณที่เพิ่งฉีดโบท็อกซ์มาเป็นเวลา 2 สัปดาห์
- ไม่นวด กด บีบ คลึง บริเวณที่เพิ่งทำการฉีดโบท็อกซ์มา เป็นเวลา 6-8 ชั่วโมง เนื่องจากการทำให้ยากระจายไปออกฤทธิ์ยังบริเวณอื่นได้
- หากมีอาการบวมแดงหรือช้ำในช่วง 1-2 วันแรกหลังการฉีดโบท็อกซ์ (ซึ่งเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้เนื่องจากเข็มฉีดยา) ให้ใช้น้ำแข็งประคบได้